Pre Order เมล็ดพันธุ์ Turnip Sarada Latina

200 เมล็ด 280  Baht
1,000 เมล็ด 700 Baht

เมล็ดพันธุ์ Turnip Sarada Latina

"Sweet Kabu (คาบุ=Turnip) Turnip หวานที่เหมาะกับเมนูสลัด เป็นพันธุ์ของญี่ปุ่น ที่เป็นที่ยอมรับของชาวยุโรป มีปลูกที่เมือง Latina ทางตอนใต้ของกรุงโรม มีคุณภาพเนื้อแน่น นุ่ม หวาน รสชาติดี ลักษณะทรงกลม หรือ ออกกลมแบน

ระยะเวลา 50 วันโดยประมาณหลังจากหยอดเมล็ด คุณภาพอาจด้อยลง กับสภาพแวดล้อมที่ร้อนจัดหรือแห้งมากในช่วงฤดูร้อน หาก
หว่านโดยตรง ระยะห่างระหว่างต้น 2-3 ซม. / เมื่อมีใบจริง 1- 2 ใบ ระยะห่างระหว่างต้น 4-5 ซม./ เมื่อใบจริง 3-4 ใบ ระยะห่าง 12-15 ซม. เลือกสถานที่ที่มีแดดและระบายน้ำได้ดี เก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่ เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4 ซม.

Turnip เป็นผักที่สามารถรับประทานได้ทั้งหัวและใบ หัวประกอบด้วยน้ำเป็นส่วนใหญ่ มีวิตามินซีและโพแทสเซียม อุดมไปด้วยอะไมเลสซึ่งเป็นเอนไซม์ช่วยย่อยอาหาร จึงมีประสิทธิภาพในการป้องกันอาการหนักท้องและอาการเสียดท้อง เทศกาลที่มักจะกินมากเกินไปในช่วงสิ้นปี หรือ ปาร์ตี้วันหยุดยาว ขอแนะนำ

ส่วนใบมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าส่วนหัว อุดมไปด้วยแร่ธาตุ เช่น บีตา-แคโรทีน วิตามินซี ธาตุเหล็ก แคลเซียม รวมทั้งใยอาหาร

เมล็ดพันธุ์นี้อยู่ในโครงการที่ชื่อว่า Gusto Italia ของ Tokita ร่วมมือกับอิตาลีเพื่อส่งเสริมการค้า ปรับปรุง แลกเปลี่ยน พันธุ์ผักจากประเทศต่างๆ ให้เข้ากับสภาพอากาศในญี่ปุ่น  แนะนำวัฒนธรรมอาหารอิตาเลียนในญี่ปุ่น Turnip Sarada Latina เป็น 1 ใน 17 พันธุ์ผักที่อยู่ในโครงการนี้"

Pre Order เมล็ดพันธุ์ Venice Radicchio Rosso

 80 เมล็ด 290 Baht
 
เมล็ดพันธุ์
Venice Radicchio Rosso

"แรดิชิโอ ผลทรงกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 12 ซม. สีม่วงแดงและสีขาวตัดกันชัดเจนสวยงาม การพัฒนาสีเป็นไปด้วยดีโดยไม่คำนึงถึงอุณหภูมิ ระยะเวลาประมาณ 70 วัน

มีรสขมเล็กน้อย เนื่องจากใบอ่อนกว่าแรดิชิโอชนิดอื่น จึงมักรับประทานดิบในสลัดที่คลุกเคล้ากับน้ำมันมะกอก และ Wine Vinegar เป็นแหล่งวิตามิน A และ C ที่ดีเยี่ยม แรดิชิโอนี้อยู่ในกลุ่ม Chioggia series แหล่งผลิตที่มีชื่อเสียง อยู่ที่เมือง Chioggia ซึ่งหันหน้าออกสู่ทะเล Adriatic Sea ในอิตาลี 

ญี่ปุ่นส่วนใหญ่นำเข้าผักชนิดนี้ จากสหรัฐอเมริกาและอิตาลี ด้วยจำนวนผักหายากจากต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีการปลูกผักเหล่านี้ในญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน แม้การผลิตจะยังไม่มากนัก แต่มีการเพาะปลูกและจัดส่งไปยังที่ต่างๆ เช่น โอกายามะ คาโกชิมะ ฮอกไกโด และนากาโนะ

เมล็ดพันธุ์นี้มาจากโครงการที่ชื่อว่า Gusto Italia ของ Tokita ร่วมมือกับอิตาลีเพื่อส่งเสริมการค้า การปรับปรุงพันธุ์ผักจากประเทศต่างๆ ให้เข้ากับสภาพอากาศในญี่ปุ่น  แนะนำวัฒนธรรมอาหารอิตาเลียนในญี่ปุ่น Venice Radicchio Rosso เป็น 1 ใน 17 พันธุ์ผักที่อยู่ในโครงการนี้"


Pre Order เมล็ดพันธุ์พริกหวาน Papu Midi

 
5 เมล็ด 360 Baht
100 เมล็ด 2,490 Baht

Mix ผสม 3 สี
สีละ 3 เมล็ด รวม 9 เมล็ด
570 Baht

เมล็ดพันธุ์พริกหวาน
Papu Midi (ปาปุมิดี้)

"พริกหวานขนาดกลาง 3 สี จาก กลุ่ม Colorful Papuri Series สีแดง และ สีเหลือง หนักราว 80-100 กรัม สีส้มหนักราว 70-90 กรัม ผลสูงประมาณ 8-10 ซม. กว้าง 6-7 ซม. ต้นขนาดกลางๆ ทนต่ออุณหภูมิสูงในช่วงฤดูร้อนที่ญี่ปุ่น สีแดง และสีส้ม มีความต้านทานไวรัส PMMov L3 สีเหลือง PMMov L4 

ถือเป็นพันธุ์ที่จัดการได้ไม่ยากเกินไปสำหรับการปลูกเป็นสวนครัวตามบ้าน ปลูกได้ทั้งระบบเปิด หรือ โรงเรือนระบบต่างๆสำหรับการปลูกเพื่อจำหน่าย Papu Midi ถือเป็นพริกหวานขนาดกลาง รุ่นออกใหม่ล่าสุดในปี 2023 จากบริษัท Marutane รุ่น Mini Papu เล็กสุด , Papuri Pro ใหญ่สุด เลือกใช้ตามขนาดที่ต้องการ"

Pre Order เมล็ดพันธุ์เมล่อน Earl's Monika Natsu

 100 Seeds 2,350 Baht

เมล็ดพันธุ์เมล่อน Earl's Monica Natsu

"เอิร์ลเมล่อน เปลือกลายตาข่าย สีเทาออกขาว พันธุ์สำหรับฤดูร้อนที่ญี่ปุ่น (Natsu=หน้าร้อน) ผลทรงกลม ผลไม่ขยายเติบโตมากเกินไป แม้อุณหภูมิสูง ต้านทานโรคเถาแตก เนื้อในสีเขียวเหลือง ความหวานอยู่ที่ 15-16 Brix ระยะเวลาประมาณ 52 วัน (ระยะเวลา ขึ้นอยู่กับสภาวะต่างๆ สภาพอากาศ อุณหภูมิ ความแข็งแรงของต้น)

เมล่อนสายพันธุ์เอิร์ล อาจไม่พบรีวิวพันธุ์ต่างๆตามร้านออนไลน์ หรือ ฟาร์มต่างๆในญี่ปุ่น เพราะมักจะไม่แจ้งชื่อพันธุ์ที่แท้จริงเวลาจำหน่าย มักใช้คำว่า Earl's Melon หรือ Musk Melon ภายใต้ชื่อแบรนด์ของฟาร์มผู้ปลูก"

Pre Order เมล็ดพันธุ์ต้นอ่อนงอก Nakahara Sprout Series




Kaiware Broccoli (ไควะเระบร็อคโคลี่)

35 ml 320 Baht
ประมาณ 6,300 เมล็ด

1L 2,420 Baht
ประมาณ 180,000  เมล็ด

"มีสารชัลโฟราเฟน (sulforaphane) มากกว่า Broccoli ขนาดโตเต็มที่ 8-10 เท่า และยังมีแคโรทีน VitaminC , VitaminE ,VitaminK ต้นอ่อนงอก ระยะเวลา 3-5 วัน มีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย"


Red Kyabetsu (เรดเคียะเบทสึ)
กะหล่ำปลีแดง

35 ml 320 Baht
ประมาณ 5,880 เมล็ด

1L 2,620 Baht
ประมาณ 168,000 เมล็ด

"ต้นอ่อนงอกของกะหล่ำปลีแดง มีรสชาติอ่อน รู้สึกได้ถึงความหอมหวานของกะหล่ำปลี มีรสชาติที่รับประทานง่ายแม้กับเด็ก จึงสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย ลำต้นสีม่วงแดง สีสวย เพียงแค่ใส่ในสลัดตามปกติ ความประทับใจของอาหารจานนี้ก็เปลี่ยนไป ไม่เพียงแต่สีสวย  ยังมีประโยชน์อุดมไปด้วย

เอนไซม์ที่ช่วยในการย่อยเนื้อสัตว์ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
วิตามินซีมากเท่ากับส้มแมนดาริน มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันมะเร็ง ภาวะหลอดเลือดแข็งตัว และต่อต้านริ้วรอย

วิตามินยู เอส-เมทิลเมไธโอนีน (S-Methylmethionine : SMM) ช่วยให้เยื่อบุทางเดินอาหารแข็งแรง หลังจากดื่มมากเกินไป ทานอาหารที่มีวิตามินยู สามารถฟื้นสุขภาพทางเดินอาหารที่เหนื่อยล้าได้ ช่วยด้านความงาม ผิวพรรณดูอ่อนเยาว์ เปล่งปลั่ง

เบต้าแคโรทีน จะถูกเปลี่ยนเป็นวิตามินเอในร่างกาย วิตามินเอที่แปลงแล้วไม่เพียงแต่เสริมสร้างผิวหนังและเยื่อเมือกให้แข็งแรงแต่ยังช่วยด้านอื่นๆ เช่น รักษาสายตา และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

แม้จะไม่ต่างจากกะหล่ำปลีทั่วไป แต่ส่วนที่ต่างกันคือ กะหล่ำปลีสีม่วงแดง มีแอนโทไซยานิน มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ลดอาการปวดตา ปรับปรุงการทำงานของการมองเห็น เป็นต้น"


Mustard Karashina (มัสตาร์ดคะระฉินะ)

40 ml 350 Baht
ประมาณ 11,600  เมล็ด

1L 2,050 Baht
ประมาณ 290,000 เมล็ด

"มีกลิ่นฉุนเหมือนผัก Cress อุดมไปวิตามินบี ธาตุเหล็ก
เอนไซม์ ช่วยกำจัดของเสียในเลือด กระตุ้นการทำงานของแบคทีเรียที่ดีในลำไส้ นอกจากนี้ยังมีน้ำมันหอมระเหย ที่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย เป็นส่วนผสมที่กำลังได้รับความสนใจอยู่ในขณะนี้"


Aoshiso no me (อะโอะชิโสะโนะเมะ)

30 ml 350 Baht
ประมาณ 10,800  เมล็ด

1L 3,050 Baht
ประมาณ 360,000 เมล็ด

"青しそอะโอะชิโสะ=ชิโสะสีเขียว  芽เมะ=Sprout ชิโสะใบอ่อนนุ่ม มีกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นผักเพื่อสุขภาพ มีวิตามิน A, B2, C ใช้เป็นเครื่องเคียงในเมนู ซาชิมิ ใช้เป็นเครื่องเทศปรุงรสในเมนูอื่นๆ และยังมีส่วนประกอบ ที่นำไปทำเป็น น้ำมันชิโสะ มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และกำลังได้รับความสนใจอยู่ในขณะนี้ *สำหรับ "ต้นชิโซะเขียว" จะแตกหน่อในที่มีแสงสว่าง
*ใช้เวลาในการงอก ประมาณ 10 วันถึง 2 สัปดาห์ในการเก็บเกี่ยว"


Aka shiso no me (อะกะชิโสะโนะเมะ)

25 ml 350 Baht
ประมาณ 14,000  เมล็ด

1L 3,550 Baht
ประมาณ 560,000 เมล็ด

"ใบสีม่วงแดง มีกลิ่นหอม เป็นผักเพื่อสุขภาพ มีวิตามิน A,B2,C ทานกับซาชิมิ สลัด ทำไส้แซนวิช โรยหน้าอาหาร เครื่องเคียง และยังมีส่วนประกอบ ที่นำไปทำเป็น น้ำมันชิโสะ มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และกำลังได้รับความสนใจอยู่ในขณะนี้ ระยะเวลาการเก็บเกี่ยวประมาณ 2 สัปดาห์"


Himawari (ฮิมาวะริ)
ทานตะวัน

40 ml 330 Baht
ประมาณ 280 เมล็ด

1L 1,950 Baht
ประมาณ 7,000 เมล็ด

"ลำต้นหนาอวบ ใบสีเขียวสด แม้ว่าจะไม่เป็นที่คุ้นเคยในญี่ปุ่น
แต่นิยมมากในยุโรปและอเมริกา ต้นอ่อนงอกทานตะวัน ทานง่าย ไม่ขมเหมือนใบใหญ่ที่โตแล้ว มีรสหวานอ่อนๆเหมือนถั่ว นอกจากใส่ในสลัดแล้ว แนะนำให้ทำน้ำปั่น สมูทตี้กับผลไม้ อุดมไปด้วยแร่ธาตุหลากหลายชนิด เช่น แคลเซียม เหล็ก ทองแดง สังกะสี แมงกานีส วิตามิน และใยอาหาร ถือเป็นผักชั้นยอดในบรรดา ต้นอ่อนงอก ใช้ระยะเวลาประมาณ 7-10 วัน เพื่อให้เป็นใบสีเขียว แต่ก็สามารถเก็บทานได้ตั้งแต่ 3-4 วันหลังงอก"


Ruby Kaiware Daikon (รูบีไควาเระไดคอน)
หัวไชเท้า

35 ml 320 Baht
ประมาณ 2,275 เมล็ด

1L 1,830 Baht
ประมาณ 65,000 เมล็ด

"หัวไชเท้าก้านแดงที่สามารถเติบโตได้ทุกที่ ตลอดทุกฤดูกาล มีแคโรทีน วิตามินซี และวิตามินเคปริมาณมาก ต้านอนุมูลอิสระและต้านเชื้อแบคทีเรีย การเคี้ยวให้ละเอียด จะช่วยให้เอนไซม์ที่มีหน้าที่ในการย่อยอาหารนั้น ทำงานได้สมบูรณ์ ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้กระบวนการต่างๆในร่างกาย ทำงานได้อย่างเต็มที่ เพื่อรับสารอาหาร ประโยชน์ที่หลากหลาย"


Toumyou (โตเมียว)

40 ml 320 Baht
ประมาณ 160 เมล็ด

1L 1,670 Baht
ประมาณ 4,000 เมล็ด

"ต้นอ่อนงอกของถั่วลันเตา เก็บเกี่ยวได้ใน 10-14 วัน สารอาหารที่สำคัญ
มีโปรตีน ซึ่งถือเป็นสารอาหารหลักที่จำเป็นต่อร่างกาย ไม่เพียงแต่ สร้างกล้ามเนื้อ อวัยวะ ผิวหนัง เท่านั้น ยังควบคุมการทำงานของร่างกาย เช่น เอนไซม์และฮอร์โมน การขาดโปรตีนทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง

มีเบต้าแคโรทีนซึ่งช่วยป้องกันความชรา 

วิตามินเค ที่จำเป็นต่อการสร้างกระดูกให้แข็งแรงและช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน มีบทบาทสำคัญในการแข็งตัวของเลือดเมื่อมีเลือดออก 

กรดโฟลิก ดีต่อสตรีมีครรภ์ ช่วยในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง และพัฒนาการของทารกในครรภ์

วิตามินซี มีปริมาณ 1.2 เท่าของส้มแมนดาริน มีประโยชน์ในด้านความงามเพื่อป้องกันความชราของผิวหนังและหลอดเลือด สร้างความต้านทานต่อความเครียดและโรคหวัด"



Soba no me (โซบะโนะเมะ)

40 ml 320 Baht
ประมาณ 800 เมล็ด

1L 1,630 Baht
ประมาณ 20,000 เมล็ด

"ต้นยืดสูงเหมือนต้นอ่อนงอกหัวไชเท้า มีลำต้นสีออกชมพู มีโปรตีนคุณภาพสูง อุดมไปด้วย รูติน ซึ่งช่วยรักษาความยืดหยุ่นของเส้นเลือดฝอยและป้องกันความดันโลหิตสูง และโคลีนซึ่งช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ ที่เกิดจากการทานไขมันจากอาหารต่างๆหากไตรกลีเซอไรด์สูง ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคตับอ่อนอักเสบ โรคไขมันเกาะตับ และมะเร็งเต้านมได้"


Garden Cress

35 ml 320 Baht
ประมาณ 10,500 เมล็ด

1L 2,290 Baht
ประมาณ 300,000 เมล็ด

"อีกชื่อเรียกในญี่ปุ่นคือ ko shou gusa โคะโชงุสะ มีรสเผ็ดฉุน มีวิตามินอีปริมาณมาก ยังมีวิตามินซี บี1 และแคโรทีนอยด์ ช่วยกระบวนการเผาผลาญ ช่วยขับปัสสาวะ กระตุ้นการหลั่งน้ำย่อยและน้ำดี กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง ในอินเดียใช้สำหรับอาการเบื่ออาหาร ขับเสมหะ โรคตับ ริดสีดวงทวาร ฯลฯ ยังมีซัลโฟราเฟนซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่ง และคาดว่าจะมีประสิทธิภาพในการยับยั้งจุดด่างดำ กระ ใช้ในเครื่องสำอาง เช่น ครีมต่อต้านริ้วรอย*เมื่อนำเมล็ดไปแช่น้ำ เมล็ดจะเละและหว่านยาก ดังนั้นควรรดน้ำหลังจากหยอดเมล็ดแล้ว"


Sango kaiware daikon (ซันโกะไควาเระไดคอน)
หัวไชเท้า

35 ml 320 Baht
ประมาณ 1,820 เมล็ด

1L 2,260 Baht
ประมาณ 52,000 เมล็ด

"เป็นพันธุ์ Kaiware Daikon ที่ใบและลำต้นเป็นสีม่วงแดง เช่นเดียวกับหัวไชเท้าไควาเระทั่วไป สามารถปลูกได้ทุกที่ทุกเวลา นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยสารอาหาร เช่น แคโรทีน วิตามินซี และวิตามินเค มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านเชื้อแบคทีเรีย สีสวยมาก เป็นต้นอ่อนงอกที่เหมาะสำหรับทำสลัด"


Kaiware daikon (ไควาเระไดคอน)
หัวไชเท้า

40 ml 320 Baht
ประมาณ 720 เมล็ด

1L 1,620 Baht
ประมาณ 18,000 เมล็ด

"ต้นอ่อนงอกหัวไชเท้าที่ปลูกได้ทุกฤดูกาล มีรสเผ็ดฉุน ซึ่งมาจากไอโซไทโอไซยาเนต มีฤทธิ์ยับยั้งหรือลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง ยังอุดมไปด้วยกรดโฟลิก วิตามินเค วิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม แคโรทีน มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และต้านแบคทีเรีย"


Rocket Sarada (ร็อคเก็ตซะระดะ)

35 ml 320 Baht
ประมาณ 15,400 เมล็ด

1L 2,750 Baht
ประมาณ 440,000 เมล็ด

"ร็อกเก็ตสลัด หรือ arugula ปลูกส่วนใหญ่ในอียิปต์และยุโรป เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง รสขม ฉุนเล็กน้อย มีสารอาหารที่ดีสำหรับผิวพรรณ และสารอาหารที่ช่วยในการป้องกันโรคหวัด และลิ่มเลือดอุดตัน อุดมไปด้วยแคลเซียม โพแทสเซียม วิตามินซีและอี บีตา-แคโรทีน และธาตุเหล็ก มีวิตามินซีมากเป็นสองเท่า และแคลเซียมมากกว่าผักโขมถึงสามเท่า เมื่อนึกถึงวิตามินซี อาจนึกถึงมะนาว แต่ arugula มีวิตามินซีมากกว่าน้ำมะนาว"


Ensai (เอ็นไซ)
ผักบุ้ง

40 ml 320 Baht
ประมาณ 640 เมล็ด

1L 2,360 Baht
ประมาณ 16,000 เมล็ด

"อีกชื่อเรียกที่นิยมใช้คือ Kuushinsai คูชินไซ ผักฤดูร้อนที่เต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ มักปลูกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อุดมไปด้วยแคลเซียม โพแทสเซียม และธาตุเหล็กแล้ว วิตามินเอยังสูงอีกด้วย เพราะมีเบต้า-แคโรทีนจำนวนมาก"


Shiro goma (ชิโระโกะมะ)
งาขาว

40 ml 320 Baht
ประมาณ 6,000 เมล็ด

1L 1,870 Baht
ประมาณ 150,000 เมล็ด

"อุดมไปด้วยสารอาหาร เช่น วิตามินอี แคลเซียม แมกนีเซียม เหล็ก ใยอาหาร กรดโอเลอิก และกรดไลโนเลอิก นอกจากนี้ยังมีเลซิติน ซึ่งช่วยป้องกันการสร้างคอเลสเตอรอลในเลือด มักใช้ในอาหารมังสวิรัติ"


Alfalfa (อัลฟัลฟ่า)

40 ml 320 Baht
ประมาณ 10,000 เมล็ด

1L 2,000 Baht
ประมาณ 250,000 เมล็ด

"ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา Alfalfa ใช้เป็นปุ๋ยพืชสดมาช้านาน อุดมไปด้วยโปรตีน แคโรทีน และวิตามินซี เป็นที่นิยมในฐานะอาหารไดเอท ในสหรัฐอเมริกา รับประทานแบบดิบๆ ในประเทศญี่ปุ่น มีการนำพืชชนิดนี้มาใช้เป็นทุ่งหญ้าในยุคเมจิ เป็นอาหารสัตว์ตระกูลถั่วที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ชาวอาหรับ ยกย่องคุณสมบัติของผักนี้โดยตั้งชื่อว่า อัล-ฟัล-ฟา ซึ่งแปลว่า “บิดาแห่งอาหารทั้งปวง” สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการในอาหาร ต้นอ่อนงอก อัลฟัลฟ่าเป็นตัวเลือกที่มีแคลอรีต่ำและอร่อย ประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ช่วยการลดน้ำหนัก ป้องกันความชรา จัดการโรคเบาหวาน ปรับปรุงการย่อยอาหาร สร้างสุขภาพกระดูก และ หัวใจ ลดระดับคอเลสเตอรอล"

Pre Order เมล็ดพันธุ์ฟักทอง Puchi White No.2

 ประมาณ 8 เมล็ด 350 Baht

เมล็ดพันธุ์ฟักทอง
Puchi White No.2

"ฟักทองขนาดเล็กน่ารักเปลือกนอกสีขาว ทรงออกแบน เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 7-10 ซม. อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 77 วันหลังย้ายปลูก กรณีที่ผลเป็นสีเขียวอาจเกิดขึ้นได้ ใช้เป็นส่วนผสมในขนม เช่น ซุป แยม และพาย หรือ คว้านเนื้อในนำมาปรุง แล้วใช้ผลฝักทองเป็นภาชนะเสิร์ฟอาหาร

 ในยุโรป ฟักทองขนาดเล็กสีขาวนิยมใช้ในงานตกแต่ง เช่น วันฮัลโลวีน ระบายสีฟักทอง เจาะรูทำเชิงเทียน ผลใช้เป็นชามเสิร์ฟซุป ฟักทองสีขาวขนาดเล็กนี้ สามารถปรุงอาหารได้ทุกอย่าง เหมือนกับฟักทองขนาดใหญ่ แม้ว่ารสชาติจะไม่อาจเทียบเท่าขนาดใหญ่ได้ แต่สามารถอร่อยได้ด้วยการปรุงในแบบต่างๆ

ด้านคุณค่าทางโภชนาการ ฟักทองสีขาว เป็นแหล่งของวิตามิน A, B6, C, E แคโรทีน ลูทีน และซีแซนทีน มีแร่ธาตุแมกนีเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก โฟเลต ไนอาซิน และไทอามีน ข้อดีด้านสุขภาพ เช่น

ช่วยลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี LDL ไฟโตสเตอรอล สามารถพบได้มากในฟักทองสีขาว โมเลกุลเหล่านี้สามารถใช้แทน คอเลสเตอรอล เพื่อให้ระดับกลับมาเป็นปกติ ซึ่งช่วยปกป้องร่างกายจากการพัฒนาของมะเร็งบางชนิด

ทำงานเป็นยาต้านอาการซึมเศร้า แอล-ทริปโตเฟน เป็นกรดอะมิโนจำเป็นที่ร่างกายต้องการแต่ไม่สามารถผลิตเองได้ มีมากในฟักทองขาว คนที่เป็นโรคซึมเศร้าสามารถได้รับประโยชน์อย่างมากจากสารเคมีนี้ ในการทำให้พวกเขารู้สึกดีขึ้นอีกครั้ง การที่กรดอะมิโนทริปโตเฟนไม่เพียงพอนั้น เป็นโทษสำหรับสภาวะทางอารมณ์ของภาวะซึมเศร้า

ทำให้สุขภาพดวงตาดีขึ้น ต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม และสายตาเอียง สามารถป้องกันความเสียหายได้ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ลูทีนและซีแซนทีนในระดับสูงที่พบในฟักทองสีขาว ฟักทองนี้มีวิตามินเอสูง ซึ่งมีประโยชน์ต่อดวงตา

ต้านทานการติดเชื้อได้ดีขึ้น สารอาหารที่หลากหลายของฟักทองขาว และน้ำฟักทองขาวนี้ สร้างความมหัศจรรย์ให้กับระบบภูมิคุ้มกัน โดยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างและกระตุ้นเซลล์เม็ดเลือดขาวมากขึ้น จึงป้องกันการติดเชื้อได้มากมาย

รักษาแผลในกระเพาะอาหาร ฟักทองขาวช่วยปรับปรุงการย่อยอาหาร โดยการลดกรดในกระเพาะอาหาร และรักษาแผลในกระเพาะอาหาร และโรคทางเดินอาหารอื่นๆ

    มีประโยชน์สำหรับโรคหอบหืด สารต้านอนุมูลอิสระของฟักทองขาว ช่วยปกป้องปอดจากเชื้อโรคและอนุมูลอิสระ

      ป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก เมล็ดฟักทองมักถูกกำหนดให้เป็นยารักษาโรคต่อมลูกหมากโต (BPH) แคโรทีนอยด์และสังกะสีที่พบในฟักทอง และเมล็ดฟักทอง สามารถช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากได้"