35 เมล็ด 290 Baht
เมล็ดพันธุ์ Organic Taki no gawa Gobou
(ทะกิโนะงะวะโกโบ)
"โกโบพันธุ์พื้นบ้านดั้งเดิมที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยเอโดะ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2-3 ซม. รากยาว 70-100 ซม. เนื้อนุ่ม รสชาติดี นิยมนำไปทำเมนูที่ชื่อว่า Kinpira , เมนูทอด , ต้ม ที่ญี่ปุ่นเริ่มเพาะในเดือน เมษายน-พฤษภาคม และ กันยายน-ตุลาคม ระยะเวลาเก็บเกี่ยวใช้เวลา 7-9 เดือนหลังเพาะเมล็ด
80% ของโกโบประกอบไปด้วยน้ำ แม้จะมีวิตามินน้อย แต่มีเส้นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ (เซลลูโลสและลิกนิน) และเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำได้ (อินนูลิน) ที่ช่วยเรื่อง การทำงานของลำไส้ มีประสิทธิภาพในการป้องกันภาวะหลอดเลือดแข็งตัว เสริมการทำงานของไต ช่วยขับปัสสาวะ กำจัดอาการบวมในร่างกาย มีแคลอรีต่ำ ยังใช้เป็นชาสมุนไพรและมีฤทธิ์ทางยา เช่นการขับสารพิษออกจากร่างกาย อย่างไรก็ตาม ในญี่ปุ่นเป็นที่แนะนำกันทั่วไปว่า สตรีมีครรภ์ไม่ควรทาน โกโบถือเป็นสมุนไพรที่มีรายงานว่า กระตุ้นกล้ามเนื้อมดลูก อาจทำให้แท้งได้
ชื่อ Taki no gawa มาจาก ชื่อหมู่บ้าน Taki no gawa สมัยเอโดะ (พื้นที่ในปัจจุบันอยู่ใกล้กับ เมืองTakinogawa เขต Kita กรุงโตเกียว) โกโบพันธุ์นี้เริ่มปลูกในยุค Genroku (1688-1704) ของสมัยเอโดะที่หมู่บ้าน Taki no gawa เป็นพื้นที่ ที่มีดินอ่อนสีดำ และการระบายน้ำที่ดี เหมาะกับการปลูก โกโบ และ แครอท
และที่หมู่บ้านนี้เอง ชายคนหนึ่งชื่อ Gengo Suzuki ได้ปรับปรุงพัฒนาพันธุ์นี้จนได้ความยาวราก ตั้งแต่ 80 ซม. ถึงมากกว่า 1 เมตร โกโบที่ Suzuki ปรับปรุงนั้น ได้รับความนิยมจากชาวเอโดะในด้านรสชาติและคุณภาพ พันธุ์โกโบต่างๆที่ปลูกกันในญี่ปุ่นมากกว่า 90%ถูกพัฒนามาจากสายพันธุ์นี้
ตั้งแต่สมัยเมจิจนถึงช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โกโบ Taki no gawa ได้รับการปลูกอย่างกว้างขวางไปทั่วประเทศญี่ปุ่นในฐานะพันธุ์ตัวแทนหลัก หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 การแพร่กระจายของโกโบสายพันธุ์ใหม่ๆเกิดขึ้น ทำให้การปลูกพันธุ์นี้ในพื้นที่ต่างๆลดลง
ปี 1996 เมื่อ Takinogawa nishi Kumin Center ได้เปิดขึ้นใน โตเกียว ชาวบ้านผู้อาศัยในพื้นที่เสนอว่า ต้องการนำผักที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่นี้ในอดีตกลับคืนมาอีกครั้ง โกโบ Taki no gawa และ แครอทพันธุ์ดั้งเดิม ได้ปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ปี 1998 โรงเรียนมัธยมต้น Takinogawa koyo ได้ร่วมกับอาสาสมัคร เพื่อฟื้นฟูโกโบพันธุ์ดั้งเดิมนี้ โดยมีจุดประสงค์เพื่อปลูกฝังความรู้สึกของเด็ก ๆ ที่มีต่อบ้านเกิดผ่านการปลูกโกโบ โกโบที่เก็บเกี่ยวได้นี้ ใช้เป็นส่วนผสมสำหรับอาหารกลางวันในโรงเรียน ในเมนู Takikomi gohan สำหรับ นักเรียน 400 คน
นอกจากนี้ ร้านขายเหล้าที่ชื่อ Mimasuya ในเขตคิตะ ได้จำหน่ายเบียร์ที่ทำมาจาก โกโบ Takinogawa ขายในช่วงเดือน มีนาคม-สิงหาคม ซึ่งได้รับเลือกเป็น 1ใน 30 ผลิตภัณฑ์ ของดีขึ้นชื่อของเขต คิตะ"
